วันศุกร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

โครงสร้างต้นหม่อน

                                                            
ต้นไม้ของฉัน (  ต้นหม่อน  )

ลักษณะทั่วไปของต้นหม่อน 

  • ชื่อวิทยาศาสตร์        : Morus alba L.
  • วงศ์                          : Moraceae
  • ชื่ออื่น                      : White berry, Mulberry tree
  • ลักษณะของพืช       : ไม้พุ่ม ลำต้นตรง มีหลายพันธุ์ ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปไข่ ขอบเรียบหรือหยักเว้าเป็นพูขึ้นกับพันธุ์ สากคาย ดอกช่อ       รูปทรงกระบอก ออกที่ซอกใบ แยกเพศอยู่บนต้นเดียวกัน กลีบรวมสีขาวหม่นหรือสีขาวแกมเขียว ผลเป็นผลรวม รูปทรงกระบอกหรือสีม่วงแดง
  • สารสำคัญ    :
      - ใบ    =  มีสารจำพวกฟลาโวนอยด์ ไฟโตสเตียรอล ไตรเทอร์ปีน แอลคาลอยด์ เซราไมด์ และน้ำมันหอมระเหย นอกจากนี้ 
                     ยังมีสารอาหารต่าง ๆ ในปริมาณสูง เช่น คาร์โบไฮเดรต เพคติน โปรตีน เส้นใยอาหาร รวมทั้งไวตามินบี ซี และ
                     แคโรทีนด้วย
       - ราก  =  และเปลือกราก มีสารแอลคาลอยด์ คูมารินส์ เทอร์ปีน สติลปีน ฟลาโวนอยด์ เบนซินอยด์
       -  กิ่งอ่อน  =  มีสารมอริน (morin) มัลเบอริน (mulberrin) มัลเบอโรโครมีน (mulberrochromene)
       -  ผล   =  มีน้ำมันหอมระเหย ฟลาโวนอยด์ น้ำตาลและไวตามินซี
  • สรรพคุณและวิธีใช้ ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา     :  ต้านเชื้อแบคทีเรีย ยับยั้งฟันผุ ต้านเชื้อมัยโคแบคทีเรีย ต้านไวรัส ต้านเชื้อรา ดึงดูดแมลง กระตุ้นการวางไข่ของแมลง มีฤทธิ์เหมือน pheromone และ juvenile ของแมลง รบกวนการกินอาหารของแมลง กระตุ้นการเหนี่ยวนำ interferon ต้านมะเร็ง เร่งการกำจัดแอมโมเนียภายในร่างกาย และลดการดูซึมแอลกอฮอล์ในทางเดินอาหาร ระบายท้อง กระตุ้นการงอกของเส้นผม จับกับอนุมูลอิสระ  แก้ปวด คลายกล้ามเนื้อเรียบ กระตุ้นมดลูกให้บีบตัว ลดความดันโลหิต มีฤทธิ์เหมือนฮอร์โมนเอสโตรเจนและ growth hormone ยับยั้งเบาหวาน ลดระดับน้ำตาลในเลือด ขับปัสสาวะ ลดการอักเสบ แก้ไอ  กระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย บำรุงหัวใจ ทำให้เม็ดเลือดแดงแตก
  • ผลการศึกษาฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา  :   การศึกษาในสัตว์ทดลองหรือในหลอดทดลอง พบว่า สารสกัดหรือสารสำคัญของหม่อนมีฤทธิ์ทางยาหลายประการ ดังนี้
             1. ฤทธิ์ต้านอนุมูลอินสระ น้ำคั้นและสารสกัดจากใบมีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด และมีสารสำคัญที่ยับยั้ง oxidation 
                 ของ   LDL ได้
             2. ฤทธิ์ยับยั้งการสร้างเมลานิน (melanin) สาร 2-oxyresveratrol จากกิ่งหม่อน และสาร mulberroside F จากใบและสารสกัดจาก
                 เปลือกราก มีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ tyrosinase ซึ่งเกี่ยวข้องในขบวนการสร้างเม็ดสีที่ผิวหนัง จึงมีการนำสารสกัดรากหม่อน
                 มาใช้เป็น whitening agent ในเครื่องสำอาง
             3. ฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด สารสกัดด้วยน้ำและสาร 2-O- ? -D-galactopyranosyl-1-deoxynojirimycin (GAL-DNJ) จากใบหม่อน
                 มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในสัตว์ทดลองที่เป็นเบาหวาน และสาร 1-deoxynojirimycin ,ฤทธิ์แรงในการยับยั้งเอนไซม์ 
                  - glucosidase ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม จึงช่วยยับยั้งการย่อยแป้งในอาหารช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ทำให้ใบหม่อน
                 มีศักยภาพในการนำมาใช้ในผู้ป่วยเบาหวาน หรือใช้ควบคุมน้ำหนัก
              4. ฤทธิ์ลดความดันโลหิต สารสกัดเอธานอลจากใบและบิวทานอลจากเปลือกราก มีสารฟลาโวนอยด์ที่มีฤทธิ์ลดความดันโลหิต
                  ใน หนู
              5. ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาอื่น ๆ เมื่อศึกษาในหลอดทดลองสารสกัดและสารสำคัญจากเปลือกรากหม่อนมีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ขอ
                 เชื้อเอชไอวี ฤทธิ์ต้านเชื้อรา และต้านเชื้อไวรัสที่ก่อโรคเริมที่อวัยวะเพศ ส่วนการศึกษาในสัตว์ทดลอง พบฤทธิ์แก้ไอ 
                 ขับ ปัสสาวะ ลดอาการบวม และฤทธิ์สงบประสาทเป็นประสิทธิผลในการรักษาโรคจากรายงานการวิจัยทางคลินิก
  • การขยายพันธุ์    :  เลือกกิ่งที่มีอายุอยู่ในช่วง 4-12 เดือน ซึ่งเหมาะในการแตกรากและกิ่งก้านได้อย่างรวดเร็วและแข็งแรง กิ่งมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1-1.5 ซม. มีผิวเปลือกเป็นสีน้ำตาลมีตาที่สมบูรณ์ปราศจากโรคและแมลงศัตรูพืช เช่น รากเน่า ใบด่าง ถ้าอายุกิ่งอ่อนเกินไป อาหารที่สะสมไว้ในกิ่งจะไม่พอที่รากจะงอกได้ ถ้ากิ่งแก่เกินไปตาของกิ่งจะเป็นตาที่พักตัวหรือเรียกทั่วไปว่าตาฝ่อ การแตกกิ่งจะไม่ดี กิ่งที่เหมาะควรเป็นกิ่งที่ได้จากแปลงที่เตรียมไว้สำหรับทำกิ่งพันธุ์โดยเฉพาะ ซึ่งมีการดูแลรักษาและใส่ปุ๋ยเป็นอย่างดี เพื่อให้กิ่งพันธุ์มีอาหารเพียงพอ ตัดท่อนพันธุ์ด้วยการการไกรตัดแต่งกิ่งหรือมีมีดคมๆเพื่อไม่ให้ท่อนพันธุ์ฉีกและซ้ำได้ให้ท่อนพันธุ์มีขนาดความยาวท่อนละประมาณ  20ซม. หรือมีตาหม่อนอยู่บนท่อนพันธุ์ประมาณ 4-5 ตา โดยตัดส่วนบนของท่อนพันธุ์ให้มีลักษณะตรงเหนือตาบนสุดประมาณ 1 ซม. (ถ้าตัดเฉียงจะทำให้มีการคายน้ำสูง และอาจผิดพลาดเวลาปลูก) ส่วนโคนของท่อนพันธุ์ตัดเฉียงประมาณ 45 องศา เป็นรูปปากฉลากตัดต่ำกว่าข้อตาล่างสุดประมาณ 1.5 ซม. โดยให้ด้านเฉียงอยู่ตรงข้ามกับตาล่างสุด
  • การปลูก   :    การเตรียมหลุม การเตรียมหลุมเป็นการเตรียมสภาพดินที่จะปลูกหม่อนให้เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของต้นหม่อนให้มากที่สุด ต้นหม่อนมีอายุยืนทนต่อสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปได้ดี เช่นในช่วงฤดูแล้ง หรือฝนทิ้งช่วง ถ้าเกษตรกรทำการเตรียมหลุมไว้อย่างดีต้นหม่อนจะสามารถเจริญเติบโตได้ตามปกติสามารถให้ผลผลิตได้ตลอดปี วิธีการเตรียมหลุมมี 2 วิธี คือ      -   การขุดเป็นหลุมๆ ตามระยะปลูก ขนาดลึกประมาณ 50 ซม. กว้าง 50 ซม. ยาว 50 ซม. รองก้นหลุมด้วยเศษหญ้า 
               ฟางแห้งหรือซังข้าวโพดคลุกด้วยปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก จากนั้นกลบดิน 1 ชั้นก่อนทำการปลูกหม่อน
           -  ขุดหลุมเป็นร่องยาวตามแถวปลูก ขนาดกว้างและลึก 50 ซม. ความยาวเท่ากับความยาวของแปลงหม่อน ใช้เศษหญ้
               ฟางข้าว ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมักรองก้นหลุม แล้วจึงเอาดินที่ขุดขึ้นกลบแล้วจึงนำท่อนพันธุ์ปักตามระยะที่กำหนด
  • สภาพดินฟ้าอากาศ   :  ฤดูกาลที่เหมาะสมสำหรับการปลูกหม่อนคือ ในช่วงต้นฤดูฝนปลายเมษายนถึงเดือนพฤษภาคมหรือตามสภาพของฝนในแต่ละท้องถิ่น เนื่องจากดินมีความชุ่มชื้นดี หม่อนจะตั้งตัวได้เร็วและการเจริญเติบโตดี รากแข็งแรงแผ่กระจายได้ลึก เมื่อถึงฤดูแล้งของปีต่อไป หม่อนจะไม่ตาย แต่ถ้าปลูกในช่วงปลายฤดูฝนมากเกินไป จะทำให้หม่อนมีระยะเวลาในการเจริญเติบโตสั้นมาก พอย่างเข้าฤดูแล้งต้นหม่อนบางส่วนอาจอ่อนแอ แคระแกร็นหรือตายได้ แต่ในสภาพที่สามารถให้น้ำได้ตลอดปี หรือสภาพดินที่ดีมีการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ในสวนหม่อนและการใช้วัสดุคลุมดินช่วยรักษาความชื้น หม่อนก็สามารถเจริญเติบโตได้ตามปกติ 
  • การเก็บเกี่ยว   :     1. ใบหม่อน วิธีการที่ดีสำหรับการทำชาใบหม่อน คือการเด็ดใบควรเก็บในตอนเช้าหรือตอนเย็น โดยเลือก
                                  เก็บใบที่ไม่เป็นโรค เด็ดจากใบล่างสู่ใบบน เว้นยอดอ่อนไว้ เก็บใบได้ประมาณเดือนละครั้ง
                             2.  เปลือกรากหม่อน ในประเทศจีนจะเก็บในช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง ระหว่างที่ใบหม่อนกำลังร่วงและใน
                                  ช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิก่อนที่ใบจะงอก โดยเอาส่วนของไม้ก๊อก (cork) ที่เป็นสีน้ำตาลเหลืองออก ตัดตามยาว
                                  ของลำต้นแล้วลอกเปลือกออก ตากแดด
                             3.  กิ่งหม่อน ในประเทศจีน จะเก็บกิ่งหม่อนอ่อนในช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วงและต้นฤดูร้อน ลิดใบออกแล้ว
                                  ตากแดด หรือหั่นเป็นชิ้น ๆ ขณะยังสด แล้วตากแดด


" โครงสร้างภายในและภายนอกของต้นหม่อน "


- โครงสร้างภายนอกของต้นหม่อน


      1. ใบ


      หม่อนเป็นพืชยืนต้นประเภทไม้พุ่ม  เนื้ออ่อน   เจริญเติบโตได้ดีในเขตร้อน  และเขตอบอุ่น  ปลายใบแหลม  ขอบใบอาจหยักเว้ามาก  คล้ายใบมะละกอ   หรือหยักน้อยคล้ายใบโพธิ์บางชนิดมีขนเล็กใต้ใบ

   
      2. ลำต้น


      ลำต้นมีลักษณะกลม  ผิวลำต้นเรียบ  ไม่มีหนาม  มียางสีขาวขุ่นคล้ายน้ำนม 


      3. ราก


      มีลักษณะของราก เป็นรากที่เจริญมาจากเพริไซเคิลของรากแก้ว การเจริญเติบโของรากชนิดนี้จะขนานไปพื้นดินและสามารถแตกแขนงได้เรื่อยไป


       4. ผล


      ผลดกและโต  รับประ-ทานได้คล้ายผลสตรอว์เบอร์รี  โดยเรียกว่า " มัลเบอรี่ "    ซึ่งพันธุ์ที่กล่าวนี้มักไม่นิยมใช้ใบเลี้ยงไหม  เพราะใบแข็งกระด้าง ไหมไม่ชอบกิน





- โครงสร้างภายในของต้นหม่อน


      1. ใบ



      
      1.1. เอพิเดอร์มิส
             เป็นเนื้อเยื่อผิว มีทั้งด้านบนและด้านล่าง ประกอบด้วยเซลล์เพียงชั้นเดียวหรือหลายชั้น ได้แก่ เซลล์ผิว เซลล์ขน หรือเปลี่ยนไปเป็นเซลล์คุม (guard cell) ภายในเซลล์ผิวมักไม่ค่อยมีคลอโรพลาสต์หรือมีน้อยยกเว้นเซลล์คุม เซลล์ผิวมีคิวทินเคลือบอยู่ที่ผนังเซลล์ด้านนอกเพื่อป้องกันการระเหยของน้ำออกจากใบ เซลล์คุมมีรูปร่างคล้ายไตหรือ เมล็ดถั่ว 2 เซลล์ประกบกัน พืชที่ใบลอยปริ่มน้ำ เช่น บัวสาย จะมีปากใบ (stoma) อยู่เฉพาะทางด้านบนของใบเท่านั้นส่วนพืชที่จมอยู่ใต้ผิวน้ำ เช่น สาหร่ายหางกระรอกจะไม่มีปากใบและไม่มีคิวทินฉาบผิว ใบพืชบางชนิดมีปากใบทั้งด้านบน และด้านล่าง เช่น ใบข้าวโพด

      1.2. มีโซฟิลล์ (mesophyll)
             เป็นเนื้อเยื่อที่อยู่ระหว่างชั้นเอพิเดอร์มิสทั้ง 2 ด้าน ส่วนใหญ่เป็นเนื้อเยื่อพาเรงคิมาที่มีคลอโรพลาสต์ จำนวนมาก โดยทั่วไปพาเรงคิมาในพืชใบเลี้ยงคู่จะมีเซลล์ 2 แบบ ทำให้โครงสร้างภายในแบ่งเป็น2 ชั้นคือ

             1.2.1  แพลิเซดมีโซฟิลล์ (palisade mesophyll) มักพบอยู่ใต้ชั้นเอพิเดอร์มิสด้านบน ประกอบด้วยเซลล์รูปร่างยาว เรียงตัวเป็นแถวตั้งฉากกับผิวใบคล้ายรั้วอาจมีแถวเดียวหรือหลายแถว ภายในเซลล์มีคลอโรพลาสต์ค่อนข้างหนาแน่น

             1.2.2  สปันจีมีโซฟิลล์ (spongy mesophyll) อยู่ถัดจากแพลิเซดมีโซฟิลล์ลงมาจนถึงชั้นเอพิเดอร์มิสด้านล่าง ประกอบด้วยเซลล์ที่มีรูปร่างไม่แน่นอนเรียงตัวในทิศทางต่างๆ กัน ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างเซลล์มาก ภายในเซลล์มีคลอโรพลาสต์ หนาแน่นแต่น้อยกว่าแพลิเซดมีโซฟิลล์

      1.3. มัดท่อลำเลียง
             ประกอบด้วยไซเลมและโฟลเอ็ม โดยไซเลมและโฟลเอ็มจะเรียงติดต่อถึงกันอยู่ในเส้นใบ มัดท่อลำเลียงจะ ล้อมรอบด้วยบันเดิลชีท (bundle sheath) ในพืชบางชนิดมีเนื้อเยื่อไฟเบอร์ช่วยทำให้มัดท่อลำเลียงแข็งแรงเร็วขึ้น ในพืชบางชนิดมีเนื้อเยื่อพาเรงคิมา ซึ่งจะมีคลอโรพลาสต์หรือไม่มีก็ได้ขึ้นอยู่กับชนิดของพืชมัดท่อลำเลียงส่วนใหญ่จะอยู่ในชั้นสปันจีมีโซฟิลล์


      






      2. ลำต้น



      ที่บริเวณปลายยอด จะพบ apical meristem ,ใบเริ่มเกิด(leaf primordia)ซึ่งจะเจริญเป็นใบอ่อน(young leaf)แล้วกลายเป็นใบที่เจริญเต็มที่, ลำต้นอ่อน(young stem)ที่ยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่ โดยในลำต้นที่เจริญเติบโตเต็มที่ โดยในลำต้นที่เจริญเติบโตเต็มที่ดีแล้วเราตัดขวางพบ 3 บริเวณ  คือ

      1. epidermis อยู่นอกสุด ทำหน้าที่ห่อหุ้มปกป้องต้นไม้
      2. cortex อยู่ถัดเข้ามา ส่วนใหญ่เป็นparenchyma ซึ่งบางครั้งcan be เนื้อเยื่อเจริญ และแตกออก
          เป็นกิ่งแขนงได้
      3. stele แยกจากcortex ไม่ชัดเจน ข้างในสุดเรียกpith เป็นparenchyma กระจุกตรงกลางนอกนั้น
          เป็นvascular bundle ซึ่งต่างกันมากในพืชใบเลี้ยงคู่vascular bundle จะเรียงเป็นวงมีxylem
          ข้างใน,phloem ข้างนอก คั่นด้วย vascular cambium โดยแต่ละวงนั้นเห็นparenchymaคั่น
          เป็นแฉกๆ แฉกเหล่านั้น เรียก Pith ray ของพืชใบเลี้ยงเดี่ยว จะกระจัดกระจายไม่เป็นระเบียบ
          และไม่มี vascular cambium คั่น


      3. ราก




      โครงสร้างของรากพืชใบเลี้ยงคู่และพืชใบเลี้ยงเดี่ยว เมื่อตัดตามขวางตรงบริเวณที่เจริญเติบโตเต็มที่จะพบบริเวณต่างๆ ของเนื้อเยื่อเรียงจากด้านนอกเข้าด้านในเป็นชั้นๆ ดังนี้
               - เอพิเดอร์มิส ( epidermis )   เป็นชั้นของเนื้อเยื่อที่อยู่นอกสุด ประกอบด้วยเซลล์ที่เรียงตัวชั้นเดียวผนังเซลล์ ไม่มีคลอโรพลาสต์ บริเวณปลายรากส่วนที่เรียกว่า บริเวณขนราก ( root hair ) จะพบเซลล์เอพิเดอร์มิสที่ยื่นออกมา เรียกส่วนยื่นนี้ว่า ขนราก ( root hair ) ช่วยในการดูดน้ำและแร่ธาตุต่างๆให้แก่พืช
              - คอร์เทกซ์ ( cortex )   เป็นชั้นที่ประกอบด้วยเซลล์พวกพาเรงคิมา ( Parenchyma) เป็นส่วนใหญ่ เรียงตัวกันหลายแถว เซลล์ไม่มีคลอโรพลาสต์ ทำหน้าที่ในการสะสมอาหาร ชั้นในสุดของคอร์เทกซ์ประกอบด้วยเซลล์ขนาดเล็ก เรียงตัวชั้นเดียว เรียกว่า เอนโดเดอร์มีส ( endodermis ) ในขณะที่รากยังอ่อนอยู่ผนังเซลล์จะบาง แต่เมื่อเซลล์มีอายุมากขึ้น จะมีสารพวกซูเบอริน ( suburin ) มาเกาะตามขวางของเซลล์ สารซูเบอรินเป็นสารที่น้ำผ่านไม่ได้ ดังนั้นการไหลของน้ำผ่านเอนโดเดอร์มิสเข้าสู่ด้านในจึงต้องผ่านเซลล์ของเอนโดเดอร์มิสที่มีอายุน้อยหรือเซลล์ที่ไม่มีซูเบอริน ที่เรียกว่า พาสเสด เซลล์ ( passage cell ) ซึ่งอยู่รัศมีเดียวกันกับไซเลมโดยตรง
             - สตีล ( stele )   เป็นบริเวณที่อยู่ถัดจากชั้นเอนโดเดอร์มิส เข้าไปในรากพบว่าชั้นของสตีลแคบกว่าชั้นคอร์เทกซ์ ชั้นสตีลประกอบด้วยชั้นเนื้อเยื่อลักษณะต่างๆ ได้แก่ เพริไซเคิล ( pericycle ) เป็นชั้นของเซลล์ที่ต่อจากเอนโดเดอร์มิสเข้ามาเซลล์เรียงกันแถวเดียวหรือ 2 แถวเท่านั้น เพริไซเคิล เป็นจุดกำเนิดของรากแขนง ในลำต้นไม่มีเนื้อเยื่อชั้นนี้ ถัดจากเพริไซเคิลเป็นกลุ่มท่อลำเลียงหรือวาสคิวลาร์บันเดิล ( vascular bundle ) ประกอบด้วยไซเลม ( xylem ) และโฟลเอม ( phloem ) ซึ่งมีการจัดเรียงตัวแตกต่างกันในพืชใบเลี้ยงเดี่ยว และ พืชใบเลี้ยงคู่ ชั้นสุดของพืชในพืชใบเลี้ยงเดี่ยวเป็นเนื้อเยื่อพาเรงคิมาเป็นส่วนใหญ่ เรียกว่า พิธ (Pith)





                                                                                                                   ขอขอบคุณ

                                                                                         (  คุณครู นาฎอนงค์ ทู้ไพเราะ  เป็นอย่างสูง )

      
  

2 ความคิดเห็น:

  1. Review of the Lucky Club casino site - Live
    LuckyClub is a popular online casino. According to the number of players searching for the website they have a pretty good record for a well Bonus: Welcome Bonus 100% up luckyclub.live to € 200 Rating: 7/10 · ‎Review by Lucky Club

    ตอบลบ
  2. Casino Resort Atlantic City - Mapyro
    Find the 양산 출장마사지 best 충청북도 출장안마 Casino 제주도 출장샵 Resort Atlantic City in realtime and see activity. The map shows if the 광주광역 출장마사지 casino is open 하남 출장샵 and the casino is open. Realtime check-in and check-out times

    ตอบลบ